สรรหามาเล่า "ย้อนประวัติศาสตร์ความเป็นมาของสายพันธุ์พม่าและป่าก๋อยก่อนจะทำศึกแห่งศักดิ์ศรีศึกระหว่าง 2 สายพันธุ์"
สรรหามาเล่า
ดำเนินเรื่องโดยบกแจ็ค
ย้อนประวัติศาสตร์ความเป็นมาของสายพันธุ์พม่าและป่าก๋อยก่อนจะทำศึกแห่งศักดิ์ศรีศึกระหว่าง 2 สายพันธุ์
ต้องบอกว่าครั้งนี้คือศึกแห่งศักดิ์ศรีมหาศึกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่วงการไก่ชนจะมีบันทึกเอาไว้อีกทั้งเป็นศึกของทั้งสองสายพันธุ์ที่ห้ำหั่นกันมาเป็นระยะเวลา
เกือบ 20 ปี ก่อนหน้านี้ยุครุ่งเรืองของสายพันธุ์พม่า ในการเข้ามาสู่วงการไก่ชนโดยไล่ปราบสายพันธุ์ของไก่ไทยไม่ว่าจะเป็นไก่ตราด ที่มีเชิงชนเข้าปีกมุดมัดทุบหลัง ไก่พนัสที่มีลักษณะเชิงชนเป็นไก่เลี้ยวบนเลี้ยวคอกลับหลังไล่ตีข้อหัวและแล้วทั้งสองสายพันธุ์ของไก่ไทยก็ถูกล่าล้างจากไก่ชนสายพันธุ์พม่าจนแทบจะสูญพันธุ์ จนเมื่อประมาณ 20 ปีที่ผ่านมาได้มีบันทึกในนิตยสารบางฉบับเรื่องของการกำเนิดของสายพันธุ์ใหม่ที่มีความเป็นมาจากทหารเรือคนหนึ่งซึ่งเอาไก่จากชลบุรีขึ้นไปเพาะอยู่ที่จังหวัดลำพูน ณ บ้านเหล่าป่าก๋อย ไปผสมกับไก่สายพันธุ์ไทยจากทางเหนือซึ่งเมื่อก่อนจะเป็นไก่ลักษณะหัวสูงหน้าหงอนได้น่าคางได้เป็นไก่เดินตี อาจจะเป็นความบังเอิญของสายพันธุ์ก็เป็นได้เมื่อเพราะกับไก่จากชลบุรีที่เป็นลักษณะของไก่เชิงเข้าปีกมุดมัดได้ออกมาเป็นไก่ที่มียีนเด่นและลักษณะเชิงชนที่ผิดแปลกแตกต่างจากไก่ที่เคยเห็น โดยไก่ดังกล่าวมีลักษณะรอยชน 1.8 กิโลกรัมถึง 2.4เป็นไก่ที่มีสรีระเตี้ยล่ำดั้งเดิมเป็นสีด่างหรือเหลืองใหญ่แต่มีเชิงชนที่ประหลาดนั่นก็คือเป็นไก่ที่วิ่งเข้ากัดทั่วตัวโดยเฉพาะแผลที่เป็นเอกลักษณ์คือกัดหลังถลกถอนขนปากคาบอยู่ข้างบนหลังกัดและตีจนเลือดซิบเต็มหลังไปหมดจากชนิดที่ว่าพม่าบางตัวเหลือแต่ขนสร้อยขนปลีกและขนหาง ที่เหลือมันถอนเกลี้ยงโดยเฉพาะหลังที่เป็นแผ่นตั้งแต่จุดที่สร้อยตกจนถึงกระปุกหางไก่ป่าก๋อยถอนออกจนเกลี้ยงมิหนำซ้ำยังตีจนเลือดอาบเต็มหลัง เป็นแผลที่น่ากลัวกับผู้ที่ได้พบเห็น โดยเฉพาะขนหลังที่มันกัดออกมากรรมการทางสนามเก็บใส่ขันได้เกือบ 2 ขัน เสียงลือเสียงเล่าอ้างต่างๆจากผู้ที่ได้พบเห็นบอกกันปากต่อปากอีกทั้งชาวบ้านแถวนั้นโดยเฉพาะหมู่บ้านเหล่าป่าก๋อยจึงได้ขยายพันธุ์ให้เพียงพอกับความต้องการของคนที่ติดต่อเข้ามาการขยายวงที่กว้างขึ้นทำให้สายพันธุ์นี้ถูกพัฒนาอย่างแพร่หลายและแล้วสายพันธุ์เราป่าก๋อยก็ได้ถูกเปิดตัวที่สนามทะเลหลวงจังหวัดสุโขทัย ซึ่งทีมงานที่เอาไปออกชนคือทีมงานของรองบ่อนเทิดไทในปัจจุบัน ตอนนั้นไก่ป่าก๋อยของรองบ่อน เป็นไก่หงอนแจ้หรือหงอนชบาประกบกับตีหลังทั้งนิตยสารหลายต่อหลายเล่มได้ออกตีข่าวของไก่ตัวนี้ และยังมีที่จังหวัดน่านก็มีเจ้าเขียวรีโมทซึ่งเป็นไก่ประกบกัดตีหลัง
คว้าเงินล้านที่นั่นจึงเป็นกระแสฮือฮา จากนั้นก็เป็นยุคของป่าก๋อยที่กลับมาเรียกศรัทธาแฟนไก่ชนไทยอีกครั้งเป็นตัวแทนของสายพันธุ์ไทย และแล้วการมาถึงของพม่ายุคพัฒนาตัวแรกที่กู้ศรัทธาและเป็นหัวเชื้อของการพัฒนาไก่ชนสไตล์ม้าล่อนั่นคือเจ้าจุกเพชรแห่งซุ้มว.เมืองราชถึงแม้เจ้าจุกเพชรจะไม่ได้ชนะสายพันธุ์ป่าก๋อยแต่เจ้าจุกเพชรตัวนี้เป็นหัวเชื้อสำคัญและเป็นสไตล์การชนที่ทำไว้เพื่อแก้เกมกับสายพันธุ์ป่าก๋อยโดยตรงนั่นก็คือสไตล์ม้าล่อวิ่งยาวๆแบบเช็คสภาพร่างกาย เป็นการพาป่าก๋อยซึ่งเป็นไก่ปอดเล็กให้ออกกำลังกายแบบยาวๆ สุดท้ายส่วนใหญ่ม้าล่อหันกลับมาตีไม่กี่แข้ง ก็สามารถที่จะคว้าชัยชนะไปอย่างง่ายดาย การวิ่งเป็นระยะเวลายาวๆของไก่ป่าก๋อยที่อาจจะไม่ได้เลี้ยงมาเพื่อการวิ่งแบบมาราธอน เมื่อเจอสภาพอากาศและต้องวิ่งแบบยาวๆเพื่อไล่กวดม้าล่อซึ่งแน่นอนว่าเป็นอาชีพของไก่พม่าม้าล่ออยู่แล้ว คนในเกมของคู่ต่อสู้ที่ถนัดและซ้อมมาเป็นอย่างดี เมื่อวิ่งใช้กำลังอย่างเต็มที่เหนื่อยแทบจะขาดใจแล้วถูกกลับหันมาตีบ่อยๆเข้าก็ทำให้หลายต่อหลายตัวถอดใจแพ้แบบหน้าใสๆให้เห็นกันบ่อยมากๆในช่วงนั้น
และแล้วในยุค 10 ปีหลังก็ได้กำเนิดป่าก๋อยที่ถูกพัฒนามาเป็นอย่างดีในแบรนด์ของเทพเจ้าป่าก๋อยสามเอี่ยว ความพิเศษของป่าก๋อยยุคใหม่คือเป็นไก่ที่ตีออกแข้งรัวเข้าไปที่หลังเน้นอยู่จุดเดียวและที่สำคัญลูกเก่งของสายพันธุ์นี้คือเป็นการไล่ตีม้าล่อหรือเรียกได้ว่าเป็นสายพันธุ์ที่ปราบมาล่อโดยเฉพาะก็ว่าได้ ยิ่งยุค 5 ปีหลังมานี้ไก่สายเลือดของเทพเจ้าป่าก๋อยตีได้ทั้งพม่ายืนๆและพม่าม้าล่อสามารถตีได้กับพม่าทุกสายพันธุ์จนต้องต่อน้ำหนักให้บ่อยครั้งกับศึกนักใหญ่ๆที่มีให้เห็นกันอยู่บ่อยๆนะช่วงนั้น
ศึกของสองสายพันธุ์ห้ำหั่นกันมาอย่างยาวนานนักพัฒนาของแต่ละสายก็พยายามปรับปรุงสายพันธุ์จุดแข็งให้ดีมากยิ่งขึ้นและลดจุดอ่อนให้เหลือน้อยที่สุดจนมาถึงศึกใหญ่แห่งศักดิ์ศรีในครั้งนี้ถือว่าเป็นการวัดสายพันธุ์เลยก็ว่าได้ว่าใครจะอยู่กับใครจะไปในการ
ชิงเงินรางวัล 132 ล้านบาทและวางซุ้มที่ได้ชื่อว่าเป็นพม่าตีเชิงอันดับต้นๆของประเทศอย่าง
ส.มีสุวรรณของ
เสี่ยเบิร์ดที่นำ
เจ้าแสนงามยอดขุนพลที่จะประลองใน 10 นัดประวัติศาสตร์ครั้งนี้ คู่ต่อสู้ก็คือ
ซุ้มตะวันสีทองเรียกได้ว่าเป็นซุ้มที่มีผลงานดีที่สุดในรอบปีเลยก็ว่าได้เพราะตั้งแต่ทำศึกในนาม
ตะวันสีทองยังไม่เคยแพ้ใครจนได้รับฉายาว่าสุริยันไร้พ่ายนำเจ้านัมเบอร์วัน ยอดป่าก๋อยตัวเก่งมาชิงชัยในศึกครั้งนี้ รายละเอียดจะเป็นอย่างไรเตรียมไว้ให้ในคอลัมน์ถัดไปแล้วครับ